ใครที่เป็นคอหนังหรือคอเกมก็จะต้องเคยได้ยินคำว่า Silent Hill (ไซเลนท์ ฮิลล์) ภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2006 โดยผู้สร้าง Resident Evil (เรซิเดนต์อีวิล) ซึ่งดัดแปลงเค้าโครงเนื้อเรื่องจาก Silent Hill วิดีโอเกมขายดีระดับโลกของค่ายโคนามิ สามารถทำรายได้เปิดตัวใน 3 วันแรก สูงถึง 765 ล้านบาท ขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน Box Office ของสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
โดยเมืองไซเลนท์ ฮิลล์นั้นก็จะเต็มไปด้วยฉากที่เมืองถูกเผาทำลาย อีกทั้งยังมีหมอกควันปกคลุมอย่างหนาแน่นและหากใครที่เป็นแฟนตัวจริงของ Silent Hill ก็จะรู้ว่าฉากที่ทั้งหลอนและน่ากลัวเหล่านั้นได้รับแรงบันดาลใจมากจากสถานที่ที่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ นั่นคือเมือง Centralia ที่ตั้งอยู่ ณ รัฐเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
สมัยก่อนเมือง Centralia ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน มีทั้งสถานีรถไฟ โบสถ์ โรงแรมห้าดาว โรงเรียน โรงละคร ธนาคาร ไปรษณีย์ และร้านค้าทั่วไป แต่แล้วในปี 1962 ได้ เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ในเมืองนี้ขึ้น โดยต้นเพลิงมาจากมีคนจุดไฟเผาขยะทิ้งไว้ในบ่อของเหมือง จากนั้นไฟได้ติดถ่านหิน และขยายวงกว้างจนคลุมพื้นที่ใต้ดินของบ้านเรือนทั้งหมด
ไฟได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วแม้มีการพยายามใช้เงินนับล้านในการดับไฟ แต่ก็ไม่เป็นผล และมันก็ยังไหม้อยู่จนทุกวันนี้ (นานกว่า 50 ปีแล้ว) หลายคนได้รับพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ ทั้งในอากาศและการปนเปื้อน รวมถึงการเกิดเหตุดินยุบลึกลงไปเป็นร้อยฟุต
สภาพของเมือง Centralia ในปัจจุบันถนนกับพื้นดินบางส่วนแตกออกและทรุดตัวลง และมีเขม่าควันพวยพุ่งออกมาตามรอยแยก หรือตามพื้นดินที่มีร่องหรือรูที่เชื่อมต่อไปยังแร่ถ่านหินใต้ดินปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง
สำหรับความร้อนจากเหตุเพลิงไหม้นี้หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันร้อนขนาดไหน บอกเลยว่าบางแห่งมีอุณหภูมิสูงถึง 1,000 องศาฟาเรนไฮต์ (538 องศาเซลเซียส) จึงทำให้ผู้คนในเมืองได้ตั้งให้มันเป็นเมืองผี
หากคุณกำลังมีความคิดว่าอยากจะไปเยือนสถานที่แห่งนี้สักครั้ง เราขอเตือนว่ามันอันตรายไม่ว่าจะเป็นท้องถนนที่สามารถทรุดตัวลงได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีควันพิษเอาไว้มากมาย และเมื่อคุณใช้เวลาอยู่ในที่แห่งนี้มากเกินไป คุณก็จะได้รับพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ และถ้าหากโชคร้ายไปกว่านั้นมันอาจจะทำให้คุณตายได้
โดยทาง Scott Sailor หนึ่งในผู้ที่เคยไปเยือนสถานที่แห่งนั้นได้เคยออกมาเผยว่า ” เราพบเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยไอน้ำ และซากฟอสซิล อีกทั้งเรายังเคยได้ยินเสียงเหมือนมีคนพูดออกมาจากด้านล่าง ตอนแรกเราคิดว่าอาจจะมีคนเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้นเราจึงไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ แต่ทว่าหลังจากนั้นเรากลับได้ยินเสียงออกมาจากสถานที่แห่งนั้นอีกครั้ง แถมครั้งนี้ก็ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม”
หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าควันไฟที่ออกมาจากพื้นดินจะเกิดขึ้นอีกนานสักแค่ไหน? ซึ่งก็ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้ แต่เรารู้ว่ามันจะคงเป็นแบบนี้ไปอีกนาน
เครดิต ranker.com