8 สถานที่ต้องห้ามจากทั่วโลก ที่พวกเราไม่อาจเข้าไปได้

การท่องเที่ยวไปทั่วโลกถือเป็นงานอดิเรกที่น่าสนุกและตื่นเต้น เราสามารถไปที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ตั้งแต่ป่าร้อนชื้นทางตอนใต้ หรือจะเป็นแผ่นดินน้ำแข็งที่ด้านเหนือสุดของโลกก็ตาม แต่รู้ไหมว่ายังมีสถานที่ลึกลับบนโลกอีกมากที่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ เข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายใน และนี่คือ 8 สถานที่ต้องห้ามจากทั่วโลก ที่พวกเราไม่อาจเข้าไปได้ จะมีที่ไหนบ้างถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

#1 ถ้ำลัสโก ประเทศฝรั่งเศส (Lascaux Caves)

ถ้ำลัสโก เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เชื่อว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์โบราณยุคหิน บนผนังถ้ำมีงานเขียนเป็นภาพวาดรูปมนุษย์ สัตว์ รูปร่างต่างๆ และการพิมพ์รอยมือ ที่มีอายุอย่างต่ำประมาณ 15,000 ปีก่อนคริสตกาล

แต่เดิมถ้ำลัสโกถูกเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวจนกระทั่งเมื่อปี 1963 ทางเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าภาพเขียนบนผนังเริ่มจางหาย ทั้งนี้เป็นเพราะนักท่องเที่ยวมือบอนบางรายนั่นเอง ทางการจึงสั่งปิดถ้ำแห่งนี้เป็นการถาวรไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาเหยียบด้านในได้อีก (นอกจากบางคนที่ได้รับการยกเว้น)

ภาพบนฝาผนังบางส่วน

#2 เกาะงูคลั่ง ประเทศบราซิล (Ilha da Queimada Grande)

อิลยาดาเกย์ มาดากรังจี หรือเกาะงูคลั่ง เป็นเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่นอกชายฝั่งรัฐเซาเปาลู ประเทศบราซิล ที่ได้ชื่อว่า เกาะงูคลั่ง เพราะเป็นเกาะที่มีงูพิษร้ายแรงจำนวนมากอาศัยอยู่ คุณสามารถพบงู 1 ตัวได้ในทุก ๆ พื้นที่ 1 ตารางเมตรบนเกาะ

โดยเฉพาะงูพิษชนิดหนึ่งชื่อ โกลเดนแลนซ์เฮด (golden lancehead) เป็นงูพิษที่มีความรุนแรงมากกว่างูพิษบนแผ่นดินใหญ่ถึงห้าเท่า และจัดว่าเป็นงูถิ่นเดียวที่มีถิ่นอาศัยอยู่บนเกาะเท่านั้น ดังนั้นทางรัฐบาลบราซิลจึงประกาศให้เกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่หวงห้าม ไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกเด็ดขาด ยกเว้นแต่นักวิทยาศาสตร์ที่นานๆ ครั้งจะไปเยือนเกาะ เพื่อสำรวจเกี่ยวกับเรื่องชีววิทยา

#3 เมานท์ เวเทอร์ สหรัฐอเมริกา (Mount Weather)

สุดยอดฐานที่มั่นลับของกองทัพอเมริกัน ลึกลงไปใต้ดินนั้นเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย สำหรับให้เจ้าหน้าที่กว่า 1,000 นายปฏิบัติงานในกองบัญชาการทางยุทธศาสตร์ โดยอาศัยอยู่กินและนอนได้เป็นแรมปีโดยไม่ต้องโผล่มาเหนือพื้นดิน

ทั้งนี้กองบัญชาการดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมาภายใต้แนวคิดที่ว่า หากเกิดสงคราม ภัยพิบัติ หรือเหตุฉุกเฉินใดๆ ขึ้นบนโลก หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่ และข้อมูลสำคัญของประเทศ ก็จะยังคงอยู่ตลอดกาลในกองบัญชาการแห่งนี้ แน่นอนว่าสถานที่อย่างนี้ ไม่อนุญาตให้ประชาชนคนธรรมดาเข้าไปย่างกรายอย่างเด็ดขาด

#4 หอจดหมายเหตุลับของวาติกัน นครวาติกัน (Vatican Secret Archives)

หอจดหมายเหตุแห่งนี้ตั้งอยู่ในห้องใต้ดินของหอสมุดวาติกัน เป็นศูนย์กลางที่เก็บข้อมูลเอกสารสำคัญ ทั้งแบบเปิดและปกปิดหลายชิ้น

ถึงแม้สถานที่แห่งนี้ จะมีคำว่า “ลับ” อยู่ด้วย แต่เอกสารที่ถูกเก็บอยู่ภายในนั้นไม่ได้เป็นความลับเสมอไป เพียงแต่มันถูกเก็บอยู่ในสถานที่ที่เป็นส่วนตัวเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว และไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเข้ามาเปิดอ่านได้เหมือนหนังสือในห้องสมุด เพราะเกรงว่าเอกสารเก่าแก่อาจถูกทำลายหรือถูกขโมยได้

#5 แอเรีย 51 สหรัฐอเมริกา (Area 51)

แอเรีย 51 เป็นชื่อเรียกฐานทัพของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายทางตอนใต้ของรัฐเนวาดา อันที่จริงก็น่าจะเหมือนกับฐานทัพอากาศทั่วไป แต่ด้วยความเข้มงวดและลึกลับของมัน ที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้หรือแวะเวียนเยี่ยมชม ทำให้หลายคนตีความไปต่างๆ นานาว่า สถานที่แห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความลับเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวและยูเอฟโอ

ภาพถ่ายจากดาวเทียม

#6 เมโทร-2 ประเทศรัสเซีย (Moscow Metro-2)

เมโทร-2 เป็นชื่อเรียกสายรถไฟฟ้าใต้ดินลับในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ซึ่งทางการรัสเซียปฏิเสธการมีอยู่ของมัน แต่จากข้อมูลอันน้อยนิดพบว่า เมโทร-2 ถูกสร้างขึ้นในสมัยของสตาลิน และเชื่อกันว่ามันประกอบด้วยอุโมงค์ลับยิบย่อยมากมายที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารสำคัญของประเทศ และหลายคนก็แน่ใจว่ามันกุมความลับระดับชาติเอาไว้มากมาย

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเพี้ยนๆ อีกเพียบ อย่างเช่น การทดลองทางพันธุวิศวกรรม มีการตัดต่อยีนสัตว์ต่างๆ จนกลายเป็นสัตว์ประหลาดและนำมาทิ้งไว้ในเมโทร-2 หรือแม้แต่ข่าวลือที่ว่า มีการนำศพซึ่งถูกแช่แข็งของสตาลินมาเก็บไว้ที่นี่ด้วย

#7 ห้องนิรภัยลับของคริสตจักรมอร์มอน สหรัฐอเมริกา (Mormon Church Secret Vault)

คริสตจักรมอร์มอน หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints) เป็นกลุ่มศาสนิกชนที่มีประวัติยาวนาน

ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงมีหนังสือจดหมายเหตุ รวมถึงม้วนไมโครฟิล์มที่บรรจุข้อมูลมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930 และเพื่อที่จะให้ข้อมูลเหล่านี้คงอยู่ไปตลอดกาล คริสตจักรมอร์มอนจึงต้องเฟ้นหาสถานที่สำหรับเก็บข้อมูลที่ดีที่สุด

พวกเขาเลือกที่จะสร้างห้องนิรภัยลับในภูเขาหินแกรนิตชื่อ Little Cottonwood Canyon ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา และไม่อนุญาตให้ประชาชนคนธรรมดาเข้าใกล้ห้องนิรภัยนี้โดยเด็ดขาด ว่ากันว่าในปัจจุบัน มีม้วนไมโครฟิล์มที่เก็บข้อมูลมากกว่า 100,000 ชิ้น และที่เป็นหน้ากระดาษอีกมากกว่า 100,000 แผ่น

#8 เกาะซึร์ทเซย์ ประเทศไอซ์แลนด์ (Surtsey)

เป็นเกาะภูเขาไฟที่ก่อตัวขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล ที่ใช้เวลาปะทุนานถึงเกือบ 5 ปี ตอนนี้มันตั้งตระหง่านอยู่ที่กลางมหาสมุทรใกล้กับประเทศไอซ์แลนด์

แต่สหประชาชาติมีมติว่า ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะแห่งนี้โดยเด็ดขาด ยกเว้นแต่นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยบางรายที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับความก้าวหน้าและวิวัฒนาการทางนิเวศวิทยา ด้วยความที่ลาวาจากการระเบิดภูเขาไฟนั้นเอง ทำให้ทัศนียภาพบนเกาะสวยงามแปลกตาอย่างมาก และในขณะเดียวกันก็เป็นอันตรายสำหรับคนที่จะมาเกาะนี้ เพราะทุกวันนี้ยังมีขี้เถ้าลอยปลิวว่อนอยู่

แบ่งปัน