6 เรื่องราวชวนสงสัยจากทั่วโลก ที่จะทำให้ทุกคนประหลาดใจ

นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้มีการค้นพบสิ่งลึกลับบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอารยธรรมที่สาบสูญ หรือวัตถุที่ไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน ฯลฯ และนี่คือ 6 เรื่องราวลึกลับจากทั่วโลก ที่จะทำให้ทุกคนประหลาดใจ จะมีเรื่องอะไรบ้างถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

#1 แอนตาร์กติกาเคยเป็นเขตอบอุ่น

แอนตาร์กติกาเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นทวีปที่หนาวเย็นและห่างไกลที่สุดในโลก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องแปลกอย่างมากหากจะให้จินตนาการว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นพื้นที่อบอุ่น มีต้นไม้เขียวขจี มีนก สัตว์ทะเล และแม้แต่ไดโนเสาร์อาศัยอยู่

แต่เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการพบฟอสซิลและไม้เขตร้อนในพื้นที่แอนตาร์กติกา ซากฟอสซิลบางส่วนเก็บรวบรวมได้ที่เกาะเจมส์รอสส์ (James Ross Island) บนคาบสมุทรแอนตาร์กติก มีอายุย้อนกลับไปเมื่อ 71 ล้านปีก่อน

#2 อารยธรรมที่สาบสูญในทะเลทรายคาลาฮารี

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 วิลเลียม ลีโอนาร์ด ฮันต์ ได้ออกเดินทางไปยังทะเลทรายคาลาฮารีพร้อมกับลูลู่บุตรบุญธรรมของเขา พวกเขาถ่ายรูปสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเจอตลอดการเดินทางและเขาได้อ้างว่าได้พบกับซากปรักหักพังโบราณของอารยธรรมที่สาบสูญ

เรื่องราวของเขาได้จุดประกายความสนใจอย่างมากในหมู่นักสำรวจยุคนั้น มีการตั้งทีมออกสำรวจหลายครั้งเพื่อค้นหาเมืองที่สาบสูญอย่างไรก็ตามไม่มีใครประสบความสำเร็จ

#3 ภาพสกัดหินโบราณที่ชายฝั่งเม็กซิโก

ศิลปะสกัดหิน (Petroglyph) ตั้งอยู่บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ของรัฐซีนาโลอาประเทศเม็กซิโก มันคือหินที่โค้งมนและมีการสกัดหินให้เป็นรูปสัญลักษณ์ต่างๆ ซึ่งคาดว่าเกิดขึ้นเมื่อราว 2,000 – 3,000 ปีก่อน

#4 เสาโลหะลึกลับไม่ทราบที่มา

เสาโลหะสูง 3.7 เมตร (ราว 12 ฟุต) ชิ้นนี้ถูกพบครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ในทะเลทรายที่ห่างไกลของรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นไม่นานมันก็หายไปอย่างลึกลับ และปรากฏอีกครั้งใน Piatra Neamt ประเทศโรมาเนีย ในอีกประมาณ 1 สัปดาห์ถัดมา

ไม่มีใครอ้างความรับผิดชอบใดๆ บางคนคิดว่ามันคล้ายเสาหินในนวนิยายเรื่อง 2001: A Space Odyssey ซึ่งติดตั้งบนโลกมาแล้วเมื่อ 3 ล้านปีก่อนโดยเผ่าพันธุ์ต่างดาวที่ชาญฉลาด จนถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าเสาโลหะนี้มาจากไหนและมันได้จุดประกายความสนใจไปทั่วโลก

#5 รอยเท้าของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ในวิหารซีเรีย

วิหาร Syrian Ain Dara มีชื่อเสียงอย่างมากโดยเฉพาะรอยเท้าขนาดใหญ่ที่พบตลอดทางเข้าวิหาร ขนาดของรอยเท้านั้นใหญ่กว่าเท้ามนุษย์ถึง 3 เท่า แต่ก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นรอยเท้าของยักษ์ มนุษย์ หรือสัตว์กันแน่

ยังไม่ชัดเจนว่ารอยเท้าเหล่านี้เป็นของใคร แต่หลายคนเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายของเทพศักดิ์สิทธิ์ในตอนที่เดินเข้ามาในวิหารระหว่างทางไปยังบัลลังก์ด้านใน

#6 หินทรงกลมในคอสตาริกา

อนุสาวรีย์หินทรงกลมขนาดยักษ์เหล่านี้เป็นผลงานของอารยธรรมก่อนโคลอมเบียซึ่งอาจมีอายุย้อนไปถึง 600 ปีก่อนคริสตศักราช ตามที่นักโบราณคดีพบหินเหล่านี้คาดกันว่าถูกแกะสลักโดยใช้หินขนาดเล็กอื่นๆ

อีกทั้งยังมีการคาดเดาว่าหินเหล่านี้ถูกใช้เพื่อแสดงทิศทางหรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางดาราศาสตร์ จุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกมันยังคงเป็นปริศนาเนื่องจากอารยธรรมของผู้สร้างได้สิ้นสุดลงไปนานแล้ว

เครดิต brightside.me

แบ่งปัน